เมื่อเราเข้าใจคำว่า พอ แล้วต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์จะสามารถสร้างคุณค่าที่ ดี ให้กับตนเองและสังคมได้

เชื่อว่าคนไทยทุกคน ต้องรู้จัก “ปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียง” ของ  พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ของเราแน่ๆ แต่ถ้ายังมองว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ปลูกข้าวปลูกผักกินเอง ในพื้นที่เล็กๆ ใช้ชีวิตเรียบง่าย เพียงอย่างเดียว ก็ต้องขอบอกตรงนี้ว่า “ผิด!” เพราะ ความพอเพียงทางการเกษตรนั้นเป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้จากการนำ หลักปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ แต่แท้จริงแล้ว ปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียงนั้นสามารถที่จะนำมาสร้างสรรค์ ให้ก่อเกิด ความสุขใจ ความพอดี และ ความสมดุลในชีวิตการทำงานไม่ว่าจะทั้งการใช้ชีวิตในเมืองหรือต่างจังหวัด หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า ถ้าเราอยากจะทำธุรกิจแล้วจะปรับใช้ความพอเพียงได้ไหม อย่างไร สำหรับธุรกิจจะอยากที่จะสร้างความยั่งยืนตามหลักปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียงสามารถทำได้อย่างแน่นอน โดย “ปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียง” มีแนวทางเป็น 3 หลักการ กับอีก 2 เงื่อนไข ที่เข้าใจได้ง่ายๆ นั่นคือ

  1. การรู้จักตนประมาณตน คือ เราต้องรู้จักประเมินและวิเคราะห์ตัวเองก่อน อะไรคือมากเกินไปและอะไรคือน้อยเกินไปสำหรับตนเอง เปรียบได้กับการทำ SWOT ในภาคธุรกิจ
  2. มีเหตุมีผล ไม่ว่าธุรกิจจะทำอะไร ควรคำนึงถึงเหตุและผลของการกระทำนั้นๆ อย่าคำนึงถึงเพียงคู่แข่งและพยายามจะทำตามเพียงอย่างเดียว เปรียบได้กับการทำ Strategic Planning
  3. มีภูมิคุ้มกัน ในที่นี้นั่นหมายถึง เราต้องป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงในอนาคตที่อาจส่งผลกระทบกับเรา ดังนั้น การเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องคิดให้รอบคอบเช่นกัน เปรียบได้กับการทำ Risk Management

 นอกจาก 3 หลักการข้างต้นแล้ว ยังมีเงื่อนไขอีก 2 ประการที่ต้องใช้ควบคู่กันไป นั่นคือ ความรู้ และ คุณธรรม” ซึ่งในการทำธุรกิจใดๆ ความรู้ในการดำเนินธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องศึกษา โดยการมีความรู้นับว่าเป็น ”อำนาจ” อย่างหนึ่ง และ อำนาจที่ดีก็ควรมาพร้อมกับคุณธรรมและความรับผิดชอบควบคู่ไปด้วย 

          ดังนั้นถ้าพิจารณากันแล้ว ปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เคยบอกให้เราละทิ้งการทำกำไรแล้วไปอยู่อย่างไม่มีความก้าวหน้า ไม่มีการเติบโต แต่เป็นแนวทางที่สอนให้เรารู้จักสมดุลและสามารถที่จะสร้างความสุข โดยอาจใช้ชีวิตหรูหราได้ในบางครั้งตามอัตภาพของตนเอง แต่ไม่ใช่ทำอะไรที่เกินกำลัง เกินพอดี หรือเบียดเบียนผู้อื่น ปัจจุบัน มีธุรกิจมากมายในประเทศไทยที่เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่เพียงแค่ “การมุ่งหาผลกำไร” เท่านั้น แต่เป็นการดำเนินธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ โดยการน้อมนำเอา มาปรับใช้ ดำเนินธุรกิจอย่างพอเพียงได้และเรื่องราวของเหล่านักธุรกิจที่เรียกตัวเองว่า พอแล้วดี The Creator ดังที่จะได้อ่านในรายละเอียดต่อไป จะแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่า การทำธุรกิจอย่างเข้าใจการแบ่งปัน พร้อมจะโอบอุ้มชีวิตอื่นให้มีพอไปกับเรา คือการธุรกิจที่ยั่งยืนสมดุลอย่างที่สุด

โครงการ พอแล้วดี The Creator : อะไร … ทำไม … อย่างไร

โครงการ พอแล้วดี The Creator จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 เพื่อเป็นการสืบสานต่อยอดนำเอาศาสตร์พระราชาปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียง มาทำให้เป็นแนวคิดในการนำพาธุรกิจและสังคมไปสู่ความยั่งยืนด้วยกัน ด้วยความเชื่อที่ว่าหากธุรกิจมีผู้นำที่พร้อมจะเกื้อกูลผู้เกี่ยวเนื่องในทุกส่วนให้เติบโตไปด้วยกัน เป็นธุรกิจที่เข้าใจคำว่า กำไรอย่างพอประมาณ ก้าวหน้าอย่างไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ธุรกิจนั้นจะเป็นธุรกิจที่ดีงาม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดไหน จะเล็กหรือ ใหญ่ ก็จะเป็นธุรกิจที่มีคุณค่าต่ออนาคต

โครงการ พอแล้วดี The Creator มุ่งเน้นการสร้าง “คน” ภายใต้คำว่า “The Creator” เพราะเราเชื่อมั่นว่า คน คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ทุกการเปลี่ยนแปลง ทุกการพัฒนา ต้องการคนที่จะเป็นผู้นำที่สามารถทำตัวเป็น “ผู้สร้าง” … สร้างโอกาส สร้างอนาคต สร้างการเปลี่ยนแปลง และที่สำคัญคือ “ผู้สานต่อ” แนวคิดที่จะเกื้อกูลคนในสังคมให้มีอย่างพอประมาณ เพื่อให้เขาเหล่านั้นมีโอกาสพัฒนาตนอย่างสมฐานะตามแต่สถานภาพ

แนวคิดในการพัฒนาหลักสูตรของ โครงการ พอแล้วดี The Creator เราใช้แก่นของ เศรษฐกิจพอเพียง ผสานกับ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Sufficiency Economy + Creative Economy) เพราะธุรกิจจะก้าวหน้าได้อย่างดียิ่งขึ้น ต้องรู้จักนำความคิดสร้างสรรค์มาเป็นเครื่องมือในการสร้างคุณค่าเพิ่ม 

โครงการนี้ เป็น โครงการแรกที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่เป็น ธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์นำ อาทิเช่น แฟชั่น โรงแรม คาเฟ่ ออกแบบ ทั้งนี้เพื่อทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่า ปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำไปใช้ได้ต่อทุกอาชีพ มิใช่แค่เพียงการเกษตรดั่งที่หลายๆคนเข้าใจ

หลักสูตรได้รับการออกแบบอย่างสอดคล้องตอบรับกับองค์ประกอบของปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียง เช่นการสอนเรื่อง การสร้างแบรนด์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมรู้จักตนประมาณได้ดีขึ้นในการทุกการแข่งขัน การสอนเรื่องโครงสร้างของกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ทำให้รู้จักการวางแผนอย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น รวมถึงการสอนให้รู้จักการสร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจผ่านเรื่องการจัดการทางการเงิน ผู้สอนทุกคนเป็นผู้เชียวชาญในระดับประเทศและมาร่วมแบ่งปันความรู้ด้วยจิตอาสา

โครงการเราแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ โครงการ พอแล้วดี The Creator ในหลักสูตร 3 เดือน และโครงการ พอแล้วดีสัญจร ที่เราจะเดินทางไปแบ่งปันความรู้แบบเร่งรัดในเวลา 2 วันตามหัวเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ