ตั้งสติ​ ทบทวน ก่อนลงมือทำ

ร้านสลัดเพื่อสุขภาพจากจังหวัดพิษณุโลกที่ตั้งใจทำผักและเมนูสุขภาพดีๆ สำหรับทุกคน ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันในวิกฤตโควิด-19 นี้ แต่นั่นคงไม่ใช่เหตุผลที่จะหยุดให้ คุณมิ้ม – ผกามาศ อินทับ พอแล้วดี The Creator รุ่น 3 หยุดทำเรื่องราวดีๆ ในสังคม เธอใช้ความรู้ที่มี คิดอย่างมีสติ และเลือกทำอาหารเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์​ ม.นเรศวร ไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้าวกลางวัน ข้าวเย็น เดี๋ยวเธออาสาทำอาหารกล่องไปแจกเอง แม้ว่า ‘เหนื่อยแต่สุขใจ’

การลุกขึ้นมาทำงานเพื่อสังคมในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้คุณใช้หลักการ 3 ห่วง 2 เงื่อนไขยังไงบ้าง

ถ้าถามหาเหตุผล​ ก็คงตอบได้เพียงเหตุผลเดียว คือ​ เราต้องช่วยกัน​ ในเวลาที่ทุกคน​ ทุกธุรกิจ ตกอยู่​ในสภาวะเดียวกัน​ การปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ​ ความที่​เป็นธุรกิจเล็กๆ จึงปรับตัวได้เร็ว​ เมื่อขายหน้าร้านไม่ได้​ เราเปลี่ยนพนักงานเสิร์ฟจากที่เคยถึงโต๊ะ​ ให้เป็น​เสิร์ฟถึงบ้านด้วยบริการจากใจเหมือนได้กินที่ร้าน แต่ปัญหามาเกิดกับสต๊อกผัก​ ที่รันตามตารางปลูก​ เราไม่อยากใช้คำว่า อุ้มพี่ๆ น้องๆ คนปลูก​ แต่เราขอใช้คำว่า​ ช่วยกัน เพราะเราคือเพื่อนร่วมทางกัน​ เราจึงมีความคิดว่า​ กำไรจากการขายแบบให้บริการส่งนี้​ หักค่าใช้จ่ายแล้ว​ ใน​ 1 สัปดาห์เราจะนำมาทำอาหารกล่องไปมอบให้​กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใน​ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร​ และเราได้พูดคุยกับพี่ๆ น้องๆ เกษตรกร​ ทุกคนเห็นด้วย และจะให้ผักแบบไม่คิดเงิน​ในทุกครั้งที่เราจะทำอาหารไปมอบ​ (ดีกว่าผักจะแก่ต้นไปเปล่าๆ)​ เอามาแบ่งปัน​ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นได้ด้วยจึงได้เกิด​ โครงการสาระดีดีและเพื่อน

โครงการนี้เราคิดขึ้นมาเพียงตั้งใจว่า อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานกันอย่างหนักหน่วงอยู่หน้าด่านเพื่อดูแลสถานการณ์โควิด-19​ เราได้ติดต่อไปยังเลขาของทางคณะแพทยศาสตร์​ ม.นเรศวร​ ซึ่งอยู่ใกล้ชุมชนที่เราอาศัยอยู่และทำธุรกิจในพื้นที่นี้ เพื่อทำอาหาร​ไปมอบให้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และอยากให้ได้ทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อจะมีร่างกายที่แข็งแรง​ โดยเริ่มทำสัปดาห์ละ 1 วัน​ และมอบอุปกรณ์ป้องกันในการทำงานของเจ้าหน้าที่​ (face shield) และสมทบทุนกับเพื่อนๆ ในโครงการอื่นๆ​ เท่าที่มีกำลังทรัพย์

ในจุดที่คุณเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำความแตกต่างของการเลือกทำคืออะไร

พูดแบบจากใจเลยคือ​ ได้ความสุข​ เพราะในทุกๆ ครั้งที่ทำไป ​เราได้รับรอยยิ้มผ่านดวงตา​ และคำขอบคุณ ไม่มีใครรู้หรอกว่า การเลือกทำในแต่ละครั้งมันส่งผลต่อใคร ใหญ่มากขนาดไหน แต่มันส่งผลกับโดยตรงกับหัวใจของเรา ความสุขที่ได้ทำ กับความสุขที่อาจไม่ได้ทำ มันคนละความรู้สึกเลย อีกอย่างถ้าเราอยู่ในจุดที่ช่วยเหลือกันได้ เราเองอยากชวนลูกๆ ชวนเพื่อน ชวนพนักงาน ให้เขาได้มีโอกาสลองได้รับความรู้สึกดีๆ แบบนี้ดู การให้ช่วยให้เราลดตัวตนลงไปได้เยอะนะ

ในฐานะพอแล้วดี The Creator คุณคิดว่าคุณมีวิธีการรับมือกับเหตุการณ์อย่างไร

การเป็นพอแล้วดี​ ช่วยให้เรา​ มีการตั้งสติ​ คิด​ ทบทวน​ ก่อนลงมือทำ​ ทำด้วยความมีสติ​ โดยหลัก 3 ห่วง​ 2 เงื่อนไข​ มันเหมือนมีเฟรมให้เราได้เดินตาม ฉันอยู่จุดไหนของเฟรมนั้นนะ ถ้าอยู่ในแต่ละห่วงหลักการหัวใจสำคัญในการคิดก็แตกต่างกันออกไป เราเองก็ได้ยึดความคิดจากตรรกะมากกว่าใช้ความรู้สึกนำทาง แต่ก่อนที่จะเดินทางสู้ต่อไปในสภาวะที่ต้องมีใจแข็งแกร่ง​ และเพื่อรักษาธุรกิจเล็กๆ แบรนด์เล็กๆ ที่เราสร้างขึ้นมาให้อยู่รอดได้ เราต้องมีเฟรมหรือกรอบความคิดที่ถูกต้องเอาไว้ใช้ได้กับทุกสถานการณ์

ระหว่างการทำกำไรกับการทำประโยชน์เพื่อสังคมคุณมองเรื่องนี้อย่างไร

คนเป็นแม่ค้า​ แน่นอนว่า ต้องหากำไร​ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้​ เพราะเราเองจำเป็นต้องพาทุกคนในห่วงโซ่ของธุรกิจของเรา ต้องการจัดธุรกิจให้ได้​ ต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้เม็ดเงินเข้ามา เพื่อให้น้องๆ ในทีมเรารอด​ ให้คนที่ปลูกผักได้ตัดผักมาตามกำหนด และส่วนที่เป็นกำไรนั้น คืนให้กับสังคม​ แต่อย่าเรียกว่ากำไรเลย เรียกว่าส่วนต่างระหว่างต้นทุนดีกว่า ในวิกฤตแบบนี้กำไรคืออะไร แค่มีเหลือจากต้นทุนในโมงยามเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าดีกว่าต้องปิดร้านไปเลย เพราะในยามนี้เราทุกคนต้องช่วยกัน 

ติดตามร้านสาระดีดีได้ที่
https://www.facebook.com/ร้านสาระดีดี-SALAD-D-378881588863740/