สาระดีดี SALADD กับโควิด-19

ผ่านวิกฤติด้วยใจดวงฟู (ของลูกค้าและลูกน้อง)…ในแบบสาระดีดี

จากจุดเริ่มต้นของการทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้สามีทาน มิ้ม – ผกามาศ อินทับ ขยายความตั้งใจออกไปสู้ผู้คน จนกลายมาเป็นร้านอาหารที่ ส่งเสริมให้คนหันมาทานผัก ซึ่งความตั้งใจนี้ก็สื่ออกมาอย่างแจ่มเจนบนชื่อร้านด้วยคำว่า “สาระดีดี SALAD D”

ผักสลัดปลอดภัยจากเกษตรกรท้องถิ่น น้ำสลัดโฮมเมดดีต่อสุขภาพ ไปจนถึงจานอาหารธรรมดาๆ อย่างผัดกระเพราหรือสปาเก็ตตี ที่ความพิเศษจะอยู่ที่ผักเคียงจานอันอัดแน่น และข้าวไรซ์เบอร์รีปลูกเองแบบปลอดสารเคมีจากกาฬสินบ้านเกิด นี่คือความมีสาระ ในจานอาหารที่แสนธรรมดา แต่สุดพิเศษ ที่เราจะได้เจอทุกครั้งเมื่อไปเยือนสาระดีดี จังหวัดพิษณุโลก

>>> ขวัญกำลังใจจากผู้นำในวิกฤต

ในช่วงชีวิตปกติ เราจะเห็นทั้งนักศึกษา อาจารย์มหาวิทยาลัย หมอ พยาบาล วนเวียนมาใช้บริการอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แน่นอนว่าโควิดได้พรากทุกภาพความทรงจำเหล่านี้ไปจนหมดสิ้น พร้อมการเข้าสู่สภาวะไม่ปกติ ที่ทำให้สาระดีดี เงียบเหงาไปอย่างฉับพลัน

“ตั้งแต่ปีที่แล้วเราก็จะรับรู้ข่าวสารจากพี่ๆ น้องๆ ในกลุ่มคนทำธุรกิจร้านอาหารซึ่งจะอยู่ที่กรุงเทพ พอเขาตอบมาชัดเจนเลยว่าวันที่ จะมีการประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉิน เราก็มาทบทวนกันก่อนที่เรื่องจะมาถึงพิษณุโลกเลยว่า เรื่องมันเป็นอย่างไร”

“แต่ในส่วนของระบบร้านและลูกน้อง เราบอกกับทุกคนว่าไม่ต้องกลัว เราก็จะสู้ต่อ เดี๋ยวเราจะพาทำ ก็คือสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกน้อง ถ้าเขาให้ปิดหน้าร้าน เราก็จะขายแบบจัดส่งให้ลูกค้า ให้คนเข้าถึงเราให้ได้ ด้วยความที่เราเตรียมตัวมาก่อนหน้านั้นอยู่แล้วก็คือ เรามีบริการเดลิเวอรี มันก็ทำไปพร้อมๆ กับความระมัดระวัง ไม่ใช่เราไม่กลัวติดโรค แต่เราทำให้ปลอดภัยทั้งเรา ปลอดภัยทั้งกิจการ ปลอดภัยทั้งน้องๆ”

>>> ไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง

ความยากที่สุดสำหรับการทำร้านอาหารต่อการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ยิ่งเป็นร้านอาหารแบบพิเศษที่ไม่ได้ใช้วัตถุดิบที่หาได้ดาษดื่นทั่วไปเพียงอย่างเดียว การจัดการระบบหลังบ้านเรื่องวัตถุดิบ ที่ในที่นี้พ่วงมาด้วยชีวิตของเกษตรกรที่เป็นเสมือนเพื่อนคู่ใจซึ่งทำงานร่วมกันมาโดยตลอด เป็นเรื่องยากที่สุดเรื่องหนึ่ง

“ระหว่างสามเดือนนั้นก็พยายามคิดหาทางออกอะไรบ้าง หาเมนูที่จะตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่ได้ออกจากบ้าน แล้วก็เน้นในเรื่องของงานบริการให้มากที่สุด ให้ลูกค้าเชื่อมั่นเชื่อใจที่จะกินกับเรา แล้วก็การไม่ได้ตัดวงจรของ supplier ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเรา คือเราประสานเร็ว พอเริ่มรู้ว่ามีข่าว เราเช็คก่อนเลยว่า ตารางการเพาะปลูกของเกาตรกรเป็นอย่างไร รอบที่มันชนมาในรอบของการเกิดวิกฤติพอดี ช่วงนั้นจำได้ว่าเอาผักมาเป็นชุดแถม เพราะเราต้องซื้อแล้ว เพราะเราซื้อตั้งแต่เขาปลูก พอเขาเอามาส่ง ก็เลยทำเป็นน้ำสลัดแล้วแถมผัก คือทำอย่างไรก็ได้ ให้เราได้งานทั้งสามฝ่าย ทั้งลูกค้า เกษตรกร และร้านเราเอง”

>>> ผ่านพ้นวิกฤติด้วยความเชื่อมั่น

“ทุกอย่างมันต้องใช้ความคิดมากๆ แต่ด้วยความที่ ธุรกิจมันก็ต้องมีเงินเข้ามา อย่างน้อยๆ กำไรของเราไม่เห็นเหลือแน่นอนแต่รายได้ที่มันเข้ามาในแต่ละวัน ลูกค้ายังเชื่อมั่นเชื่อใจเราในส่วนของทั้งอาหารหรือบริการหรืออะไรต่างๆ มันก็ทำให้เราบอกกับตัวเองได้ว่า เราต้องไปได้ เราสามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้แต่อาจจะไม่ได้เหมือนเดิม”

“พอหมดระยะเวลาที่สั่งหยุดร้าน ทุกอย่างมันคลี่คลาย ก็รู้สึกว่า การกลับมาในครั้งนั้น หลังจากการระบาดระลอกแรก ทุกคนใช้ชีวิตเกือบจะปกติ แล้วมันกลายเป็นว่า ผลประกอบการดีขึ้นมากเป็นเท่าตัว อาจจะเพราะด้วยเรื่องความสนใจด้านอาหารสุขภาพด้วย แต่สิ่งสำคัญเราคิดว่าเป็นเพราะความเชื่อใจที่ลูกค้ามีให้ แล้วการแก้ปัญหาของเราเวลาที่เกิดปัญหาในเรื่องของบริการ เราแก้ปัญหาด้วยใจ”

“การทำร้านอาหารที่อาหารอร่อยหรือร้านสวย อาจจะไม่ใช่ประเด็นที่คนจะมองอย่างเดียว สำหรับสาระดีดีงานบริการสำคัญที่สุด มีลูกค้าพูดกับเราตั้งแต่ช่วงสองสามเดือนแรกของโควิดว่า เขามากินมาซื้อทุกวันได้ เพราะเขากลัวเราเจ๊ง… คุณต้องสู้นะอย่าเลิกทำร้านแบบนี้นะ เรารู้สึกว่ามันมีคนที่คิดแบบนี้เพื่อที่จะให้กำลังใจคนทำร้านอาหาร มันรู้สึกทำให้เราใจฟู”

>>> โชคดีที่เตรียมตัวไว้ก่อน

สาระดีสลัดดี นี่คือสโลแกนแห่งความตั้งใจที่ สาระดีดี พยายามส่งต่อให้กับผู้คนผ่านอาหารทุกจาน ตั้งแต่ในช่วงต้นของโควิดระลอกแรก มิ้ม ได้ออกแบบวิธีการขาย ที่สามารถส่งต่อคุณค่าของแบรนด์ได้มากขึ้น ด้วยการเปิดครัวที่เป็นจุดบริการแบบซื้อกลับบ้านขึ้นมาอีกหนึ่งที่ เพื่อส่งต่อความตั้งใจของสาระดีดีไปสู่ผู้คนได้มากขึ้น

“ในระหว่างที่โควิดระลอกแรก เราก็เล็งเห็นแล้วว่า ถ้าธุรกิจร้านอาหารต้องอยู่ในวิกฤติแบบนี้อีก แน่นอนว่าร้านที่เป็นร้านนั่งร้านบริการ ไปต่อยากมาก มันคงอยู่ได้ แต่ก็คงยาก ก็เลยคิดอีกโมเดลเล็กๆ ขึ้นมาคือ อยากมีครัวกลางในเมือง ที่ห่างจากร้านเราไปประมาณสิบกว่ากิโลเมตร เราก็เชื่อว่าถ้าเราสามารถไปมีตลาดตรงนั้น ก็สามารถเพิ่มยอดขายได้ คือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่เราจะผลิตอาหารได้อีกที่หนึ่ง เพื่อที่กระจายได้ทั่วถึงสำหรับลูกค้าที่อยู่ไกลจากเรา ซึ่งก็ลงทุนในวิกฤตินั้น ก็เป็นร้านสำหรับเดลิเวอร์รี แบบแกรบแอนด์โก”

>>> ทำความเข้าใจเพื่อแก้ปัญหา

“พอมาเข้ารอบสองเราก็เริ่มรับมือได้ ตอนแรกเราแอนตี้เดลิเวอร์รีมาก เพราะความไม่เข้าใจ เรายังขาดความรู้ในเรื่องของการคิดต้นทุนที่ดี พอโควิดเข้ามามันก็ทำให้เรามีเวลาว่าง ไปเรียนเพิ่มเติมความรู้ ก็มาค้นพบว่ามันไม่ได้แย่ แต่เราต้องทำด้วยความเข้าใจ”

“เรายังคงจุดยืนของเราก็คือ ส่งมอบคุณค่าที่ดีที่สุดผ่านอาหาร ผ่านงานบริการ ด้วยเมนูในราคาที่เหมาะสม ให้ลูกค้าไม่ได้รู้สึกว่าทำไมแพงจัง คำว่าแพงไม่ใช่ปัญหา แต่การที่เราจะใช้เดลิเวอร์รีเข้ามาก็ต้องคิดต้นทุนให้ครอบคลุม ไม่ใช่ทำแล้วเจ๊ง ทำแล้วขายดีมากแต่หากำไรไม่เจอ ก็เลยคิดและทำเมนูใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การส่งอาหาร แล้วมันก็ทำให้ยอดขายดี แล้วเราก็พยายามคงมาตรฐานของเราให้ดีที่สุด”

“การสื่อสารสำคัญมาก เราจะเก็บเบอร์ลูกค้าทุกครั้งที่เขาสั่งเดลิเวอรี แล้วก็โทรไปถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง แนะนำบริการได้ไหม เขาก็จะมีฟีดแบ็คให้เราเก็บมาไว้ทั้งเพื่อแก้ไขและให้น้องๆ ภูมิใจ รอบสองนี่เรียกได้ว่า ไม่ได้กระทบกระเทือนมาก รอบสามดูรุนแรง เพราะด้วยความที่โซนมหาวิทยาลัยเป็นโซนแดง สาระดีดีปิดหน้าร้านไม่ให้นั่งทานตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 64 ขายแค่แบบกลับบ้านและเดลิเวอรี กลายเป็นว่าลูกค้าก็ยังให้โอกาสเรา เชื่อมันและเชื่อใจที่จะอุดหนุน ให้สาระดีๆ เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ในช่วงที่ต้องอยู่บ้าน ในช่วงที่เกิดวิกฤติ เราต้องนิ่ง ทบทวน และตั้งสติ ตั้งรับว่าอันไหนควรทำก่อนหลัง”

>>> รอดให้ได้ในแบบของตัวเรา

“สำหรับช่วงโควิด มันทำให้จิตใจเราเข้มแข็ง ไม่ฟูมฟาย เรารู้ว่าทุกคนต้องเอาตัวรอด ตัวเราเองก็ต้องเอาตัวรอด แต่เราจะไม่รอดแบบที่ไม่ใช่ตัวเรา ฉันก็ยังพยายามรอดในสิ่งที่ฉันเป็น แต่การที่ทำให้คิดว่ารอดได้คือเรื่องของจิตใจ ถ้าเมื่อก่อนก็คงช็อค ดอกเบี้ยก็เดินทุกวัน ยังมีเงินต้นและดอกเบี้ยอยู่ที่ต้องจ่าย ก็ขายได้ มีเงินเข้ามาดำเนินกิจการ ธุรกิจยังไปได้ แต่แค่เราไม่มีกำไร และตัวเราเองที่ได้เงินน้อยลง ทีนี้ก็อยู่กับตัวเราเองที่จะปรับและรับมืออย่างไร ซึ่งตัวเราเองก็ไม่ได้ใช้ฟุ่มเฟือยอะไร เราก็แค่ไม่มีเงินเก็บส่วนของตัวเองที่จะเข้ามามากมาย”

>>> การกู้ไม่ใช่เรื่องผิดแต่จงทำอย่างมีสติ

สิ่งที่มีความจำเป็นไม่แพ้เรื่องใด ยิ่งในช่วงวิกฤติที่การหารายได้เข้ามาเป็นเรื่องยากยิ่ง ก็คือเรื่องการเงิน สาระดีดีแชร์ประสบการณ์การกู้เงินในช่วงโควิดให้เราฟังอย่างน่าสนใจ

“ในส่วนของการกู้ก็มีเข้ามา โชคดีของธุรกิจร้านอาหาร ที่จะมีหลายๆ ช่องทาง สินเชื่อธนาคารเข้ามายื่นข้อเสนอ ก็ต้องดูว่าเราจะเอามาใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร อย่างของธนาคารออมสิน ก็จะมีเข้ามาช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารโดยเฉพาะ ธุรกิจละหนึ่งแสนบาท (ตามขนาดของธุรกิจและจำนวนโต๊ะนั่ง) เว้นดอกเบี้ย 6 เดือนไม่ต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอก ระยะจ่ายคืนห้าปี”

“เราก็ใช้นามบริษัทในการกู้ เพราะอยากจะได้เงินทุนก้อนหนึ่ง มาทำทำธุรกิจในส่วนของน้ำสลัด ก็เขียนโครงการเสนอธนาคาร และใช้ประโยชน์จากการที่เราวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นคือการเข้าสู่รูปแบบธุรกิจแบบนิติบุคคล มันก็ค่อนข้างที่จะเป็นสัดเป็นส่วน ในการแยกเรื่องเงินร้านออกจากเงินส่วนตัว ก็เพิ่งมาเห็นประโยชน์ตอนที่เราทำตอนนี้”

>>> ผลลัพธ์ของความพยายาม

ด้วยวิธีการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง และยังคิดหาหนทางเพื่อรักษาคุณภาพไว้จนได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า ผลที่สุดคือความมั่นใจที่ทุกคนมอบให้กับสาระดีดี ทั้งทีมงานเอง เกษตรกรผู้ส่งมอบวัตถุดิบ แม้กระทั่งลูกค้าที่ชื่นชมมาโดยตลอดไม่เปลี่ยนแปลงและสนับสนุนทุกการก้าวเดินของสาระดีดี

“ที่สุดแล้ว สิ่งที่ได้ในโควิดนั่นคือ ได้คำขอบคุณจากลูกค้า ได้ใจน้องๆ เราทำให้ทุกคนรู้สึกว่าปลอดภัยที่อยู่กับเราว่า เจ๊ไม่พาเจ๊ง และในส่วนของเกษตรกรเราก็ยังดูแลกัน  ก็มีบางคนที่เห็นใจเรา ลดราคาให้ อย่างเช่น เราทำอาหารไปมอบให้กับโรงพยาบาลทุกวันอังคาร ในวันไหนที่ทำสลัด ก็จะมีน้องที่ส่งผัก ส่งข้าว ก็จะช่วยสนับสนุนผัก สนับสนุนข้าว 2 – 3 กิโลต่อครั้ง เราก็รู้สึกว่า ทุกคนมีจิตใจที่ช่วยเหลือกัน ถ้าเราไม่ได้ทำเพื่อหวังผลตอบแทน มันก็จะทำได้เรื่อยๆ และมีคนอยากช่วยเรา”

“ช่วงนี้ก็เริ่มทำอาหารกล่องบริจาคให้โรงพยาบาล เพื่ออยากให้น้องๆ มีงานทำ เริ่มจากทุนของเราเองก่อน พอมีคนเห็นว่าเราทำ ก็มีคนอยากช่วย เราเลยทำแคมเปญ Buy 1 Give 1 คือถ้าลูกค้าบริจาคเงินมาทำข้าวกล่อง 1,000 บาท เราก็จะสมทบทุนไปอีก 1,000 บาท สาระดีดีส่งข้าวกล่องมื้อเที่ยงให้กับโรงพยาบาลสนาม ให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงาน 20 กล่องต่อวัน เริ่มทำมาตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน จนมาถึงวันนี้ก็มีคนร่วมสนับสนุนร่วมสองหมื่นบาท ทุกคนก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ส่งกำลังใจ ซึ่งตรงนี้อย่างน้อยๆ มันก็คือธุรกิจ เราก็ยังได้ น้องๆ ก็ได้ทำงาน ลูกค้าก็ได้ซื้อ แล้วมันก็เกิดความชัดเจนในการใช้เงิน”

>>> ความสุขในแบบสาระดีดีในวิกฤติโควิด

“เราเชื่อว่าปัญหามันมีทุกคน และในช่วงนี้ทุกคนมีปัญหาเดียวกัน แต่เราคงไม่ไปเรียกร้องว่าใครจะมาช่วยเราต้องช่วยเหลือตัวเอง และเก็บทุกคนไว้เหมือนเดิม พยายามทำให้ทีมเชื่อว่าสาระดีดี เป็นที่ที่ให้โอกาสทั้งเขา ทั้งเรา แล้วก็เราต้องช่วยกันรักษามันไว้ให้ดีที่สุด เราก็พยายามพูดคุยกัน ตอกย้ำกันว่า เราต้องพยายามรักษาคุณภาพของเรา เราต้องส่งมอบบริการที่ดีที่สุด ถ้าลูกค้าเลือกกินแสดงว่า เขาต้องเชื่อใจเรามากๆ วิกฤตินี้ทำให้เราได้มีโอกาสคิด ทบทวนและพัฒนา เพื่อรอวันให้มันดีขึ้น”

“ก็ยังพยายามหาความสุขทางใจให้ตัวเอง พยายามไม่คิดว่าสิ่งนี้มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างล่มสลาย ในเมื่อยังมีโอกาสทำมาหากินได้อยู่ ก็ใช้เวลาไปพัฒนาสูตร ได้มีความสุขกับการได้ทำเมนูใหม่ๆ และมีคนทานแล้วอร่อย นี่คือความสุขในมุมของคนทำอาหาร และที่สำคัญเรายังรู้สึกว่า คนที่เดินทางร่วมกับเรา มั่นใจว่าจะพาชีวิตเขาให้รอดได้”

สาระดีดีเป็นอีกร้านที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักหนาสาหัส เนื่องจากพื้นที่ร้านตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่เป็นแหล่งระบาดอย่างหนักของโควิด 19 ถึงกระนั้นก็ยังมีสติพอที่จะรับมือและพยายามขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะไปได้ด้วยการวางแผน คาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า หรือการทำการตลาดแบบครองใจกลุ่มเป้าหมาย

ด้วยกระบวนวิธีใดก็ตามเท่าที่มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ จะสามารถเค้นกลั่นออกมาเป็นการฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาต่างๆ ในวิกฤติครั้งนี้ เราเชื่อว่าทุกท่านที่กำลังอ่านบทความนี้ทำได้ และจะผ่านพ้นวิกฤติไปได้เช่นเดียวกัน

:::

พอแล้วดี The Creator : มิ้ม – ผกามาศ อินทับ

ธุรกิจ : สาระดีดี