Uncle Ree Farm กับโควิด-19

จักรวาลใต้พิภพของไส้เดือนและผองเพื่อนแห่ง Uncle Ree Farm

ไส้เดือน หนอน แมลง นม ผักอินทรีย์ สเต็ก ขนมหวาน ของใช้แบบรีฟิล คลาสเรียน เครื่องมือเกษตรแบบหมุนมือ ไปจนถึงเครื่องกำจัดขยะสุดไฮเทค ไม่ว่าจะกลับหัวตลบคิดมุมไหน ก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้มาอยู่รวมกันได้อย่างไร

Uncle Ree Farm
Uncle Ree Farm

ในสถานการณ์วิกฤติอย่างทุกวันนี้ หากมีใครบอกว่าการขยายธุรกิจคือหนทางของความอยู่รอด หลายคนอาจคิดว่าคนที่พูด ไม่เพี้ยนก็ขาดสติ แต่สำหรับ Uncle Ree Farm การขยายธุรกิจให้กว้างขวางขึ้น มันคือรูปแบบหนึ่งของความประมาณตนในแบบลุงรีย์ที่นำมารับมือกับช่วงโควิดได้เป็นอย่างดี

“ธุรกิจของ Uncle Ree Farm คือฟาร์มไส้เดือนที่เติบโตด้วยระบบ Party เติบโตด้วยระบบ Partner เติบโตด้วยระบบ Platform technology ไม่ใช่ว่าเราไม่เชื่อในคน แต่บางอย่างที่เป็นความผิดพลาดของมนุษย์ เราตัดออก เราทำงานกับเขาในแบบที่ มันจะเลี่ยงความเสียใจของตัวเองในเรื่องของการจากลา แต่ในขณะเดียวกันคุณค่าของเรากลับเลี้ยงคน”

“หน้าฉากลุงรีย์เหมือนทำงานคนเดียว แต่มาดูหลังบ้านสิ แม่ น้อง ปั่นกิมจิกันทั้งวัน ทีมเค้กก็ทำงานอยู่ ลิน(ภรรยาของรีย์) ก็ปั้มของอยู่(เติมวัตถุดิบในขวดรีฟิลแบบปั้ม) ทีมแมลงสาบก็ทำบ้าอะไรไม่รู้ทั้งวัน ตอนนี้พอมีคนที่คิดใกล้ๆ กัน ทำงานด้วยกัน มันก็พากันไปเร็วขึ้น ใหญ่ขึ้น แล้วก็ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้เดินคนเดียว”

เพื่อนใต้พิภพของไส้เดือน

ในโลโก้ของแบรนด์ Uncle Ree Farm เราจะเห็นไส้เดือน ชูคอเฉิดฉายอยู่บนใบหน้าเปื้อนหนวดของลุงรีย์อยู่เสมอ สิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลุงรีย์คิดระบบ Connect กับ Dot โดยคิดต่อแบบเป็นภาพในหัวว่า ไส้เดือนสามารถชอนไชไปที่ไหนบ้าง ที่ที่ไส้เดือนชอนไชไป ได้เจอเพื่อนแบบไหน และสุดท้าย ทำอย่างไรที่จะพาเพื่อนไปด้วยกันได้ในเส้นดินเดียวกัน

Uncle Ree Farm

“ในฟาร์มลุงรีย์ที่ใช้ทุกวันนี้ รายจ่ายสูงสุดก็คือขี้วัว ที่จะเอามาประกอบให้ไส้เดือนกินเป็นอาหาร แล้ววัวเลือกที่ไหน วัวได้อะไร แล้วเราซื้อเขาได้แค่ขี้วัวหรอ เราซื้อนมเขามาไม่ได้หรอ นมเหลือต้องทำอย่างไร แล้วผักหล่ะ เราใช้มูลไส้เดือนปลูกผักอยู่แล้ว แล้วไก่หล่ะ ในการเลี้ยงไก่ มีการส่งหนอนแมลงวันลาย ส่งไส้เดือนไปให้ไก่ อ๋อ มันเริ่มจากไส้เดือน มันไม่ใช่ Farm to table แต่มันคือ Soil to table ก็เลยคิดว่า นี่เป็นกุญแจสำคัญของเรา ที่ทำตั้งแต่ “ดิน” จนกลายมาเป็น “อาหาร” เพราะวันๆ เราทำอยู่สองเรื่อง ไม่ปุ๋ย ก็จัดการขยะ กลายมาเป็นของกิน แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นจักรวาลไส้เดือน”

เพราะไส้เดือนไม่ได้เก่งอยู่คนเดียว

Uncle Ree Farm
Uncle Ree Farm

“เมื่อก่อนเราไม่เคยปฏิเสธ อะไรมาก็ทำ แต่ตอนนี้อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรา เราก็ไม่ทำ ทำแค่ กินกับปลูก และจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น พอมาทำกับ Exofood ก็เข้าใจว่าเพราะการย่อยขยะอาหารมันยากนี่เอง มันมีแมลง มันมีหนอน มันมีมด ไส้เดือนคงไม่ได้เก่งอยู่คนเดียว ยังมีแมลง หนอน มด แมลงวันอะไรมีประโยชน์ แมลงสาบอะไรมีประโยชน์ มดอะไรมีประโยชน์ คิดว่าข้อสำคัญคือการเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เรามี ที่เราเชื่อมั่น เอาสิ่งเหล่านี้มาใส่เทคโนโลยี แล้วนำเสนอในรูปแบบคุณค่าของสิ่งที่อยู่ในดิน ไปสืบว่าไส้เดือนมีเพื่อนชื่ออะไร ชื่อหอยทาก ชื่อเพลี้ย ชื่อหนอน แล้วก็ศึกษาเหตุและผลที่ว่าจะรักษาเขาไว้ หรือกำจัดเขา ก็คือการบำรุงและป้องกันศัตรูพืช แทนที่จะเล่าว่าลุงรีย์ทำเรื่องการจัดการศัตรูพืชก็เปล่า เราศึกษาว่าเพื่อนเราชอบอยู่กับอะไร เป็นราชาไส้เดือนเหมือนเดิม แต่เราศึกษาลึกขึ้นว่าเพื่อนเราคือใคร ทำอะไรได้บ้าง แล้วมาสนุกกับงานแบบไม่รู้จบ”

ไม่ใช่แค่โควิดแต่รับมือกับทุกวิกฤติด้วยความเข้าใจตัวเอง

เพราะต้องการเลี่ยงความเสียใจในการจากลา ฟาร์มลุงรีย์จึงมีพนักงานน้อยที่สุด แต่มีเพื่อนมาทำงานด้วยแล้วแบ่งสรรค์กันอย่างลงตัว เพราะเข้าใจความถนัดและความแตกต่างของเพื่อน จึงขับเคลื่อน “จุดเด่น” สอดประสานให้ทุกคนเดินไปบนจุดร่วมเดียวกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะวิกฤติใด ก็สามารถผ่านพ้นไปด้วยระบบที่เข้าใจตัวเอง

“ทุกวันนี้เราขาย supply chain เราขายเรื่องว่าไส้เดือนไปไกลได้มากแค่ไหน ลุงรีย์อาจไม่รู้ว่าไส้เดือนมีกี่ปล้อง แต่ลุงรีย์รู้ว่าไส้เดือนไปทำอะไรได้อีก ไส้เดือนเลี้ยงกับหนอนอย่างไร ไส้เดือนเลี้ยงกับวัวอย่างไร ไส้เดือนเลี้ยงกับไก่อย่างไร ทำอย่างไรให้มีความใหม่ เพราะเราเป็นคนเสพติดความตื่นเต้น เราเป็นครีเอทีฟในสายเลือด เลยต้องคิดตลอดเวลา”

“มันเหมือนมีสองคนอยู่ในแบรนด์ ถ้าเป็นตัวลุงรีย์ก็เป็นครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ ทำงานประดิษฐ์ ทำงานพัฒนา ถ้าเป็นฟาร์มลุงรีย์ ก็คือที่แห่งนี้ ทำเรื่องไส้เดือน ทำศูนย์เรียนรู้ ทำเรื่องฝึกอบรม”

Uncle Ree Farm

“ถ้าเป็นตัวลุงรีย์จะไปร่วมทำกับใครก็ได้ Uncle Ree กับ Rush Lush ก็เป็นแบบนึง Uncle Ree กับ สาระดีดีก็เป็นแบบนึง เราเป็นครีเอทีฟ เราก็ไม่งงตัวเอง Uncle Ree Farm ก็คือฟาร์มของเรา แบรนด์ Uncle Ree ทำเรื่องอะไรก็ได้ที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์ โดยมีแก่นอยู่ที่ การมองรอบทิศ ใส่ใจตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำจนจบ เพราะเราก็โดดไปเล่นทุกมุมมาแล้ว เกษตรกรก็เป็น คนเปิดร้านอาหารก็เป็นมาแล้ว เราก็จะเข้าใจการตั้งราคา เงื่อนไขต่างๆ ยากง่ายอย่างไร ฤดูกาลเป็นอย่างไร”

“ข้อสองการ connect กับ dot หรือว่า ห่วงโซ่อุปทาน เราเลยมีความกว้าง ข้อสามก็คือเรื่องของ ความตื่นเต้นและความสนุกที่ออกมาในงาน งานของเราสุดท้ายมันก็จะสนุก เราอยากให้มันเล่นได้ ง่าย สนุก เกษตรปกติมันก็ต้องยาก ลุงรีย์ก็จับมาใส่แคปซูล สวยงามด้วย สนุกด้วย น่าใช้ด้วย ก็เลยคิดว่า น่าจะเป็นคีย์ของเราที่ไม่ให้หลุด อันสุดท้ายก็คือเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่เราทำอยู่เสมอ แค่ 4 คีย์นี้ก็พอแล้ว”

ระบบจักรวาลของ Uncle Ree Farm

Uncle Ree Farm ใช้วิธีทำงานร่วมกับเพื่อน แบ่งตามความถนัดและความสุขที่แตกต่างกันของแต่ละคน พร้อมกับสร้างทุกๆ ส่วนให้มีภาพลักษณ์ชัดเจนในตัวเอง สุดท้ายทำงานสอดประสานร่วมกันได้ในที่สุด

“ในโครงทั้งหมดมี Uncle Ree Farm เป็นศูนย์กลาง การแก้ปัญหาขยะที่เกิดจากอาหารให้ Exofood ดูแล Uncle Ree Farm จะกำจัดขยะอาหารแล้วเปลี่ยนเป็นดิน Exofood จัดการขยะอาหารแล้วเปลี่ยนมันเป็นโปรตีน ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบไส้เดือน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากให้อาหารอยู่ใกล้ไส้เดือน มันอาจเกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดง่าย ก็เลยต้องมีลุงรีย์เลือกกิน Select – to – eat แยกออกมาอีกบริษัท มันจะครบวงจรของผลผลิตทั้งหมด”

Uncle Ree Farm

“หากจะต้องให้ใครพิสูจน์คนหนึ่งว่า ในฟาร์มสิ่งนี้ปลอดภัย ไม่ใช่ลุงรีย์เป็นคนพูด กลับต้องให้ Exofood เป็นคนเล่าแทน เพราะว่าภาพลักษณ์เป็นแลป แต่เราอยู่เบื้องหลัง การเล่าเรื่องลุงรีย์ดี แต่การพิสูจน์ไม่ใช่ ต้องเป็นอีกคนหนึ่งที่มีนิสัยแบบนี้ ซึ่งอยู่ในองค์กรเรา ไม่ต้องไปปนกัน แต่จับมือกันอยู่ในองค์กร เพราะทุกคนเล็กมาก่อน แต่เราบังคับทุกคนเขียนแบรนด์โมเดล เราบังคับทุกคนเขียน Brand personality เวลาทำงานก็มากางกันดูว่างานนี้เป็นของใคร พอเป็นอย่างนี้มันกว้างเราจะทำอะไรก็ได้ มันก็คือการขยายแบรนด์ตาม key activity พอเรากางแผนที่ออกมาแบรนด์เราก็ไม่หลงแน่นอน”

“เกษตกรหลายคนมักคิดว่าผลิตภัณฑ์มันคือหนึ่งแบรนด์ หนึ่งสติ๊กเกอร์ หนึ่งอาร์ตเวิร์ค มันจะเหนื่อยแล้วสุดท้ายก็แพ้ เพราะบำรุงแบรนด์ไม่พอ นี่คือความเข้าใจผิดของการดูแลแบรนด์ของเกษตรกร เราไม่ได้ทำมั่ว เรามีการวิจัยตลาด ว่าช่วงโควิดควรทำอะไรดีที่สุด อาหาร อย่างไรคนก็ต้องกิน ปุ๋ย อย่างไรคนก็ต้องใช้ เพราะตลาดต้นไม้เติบโต ผลิตภัณฑ์หลายๆ แบรนด์ เราเป็นต้นน้ำทั้งหมด ทั้งที่เราเป็นฟาร์มเล็กๆ แต่เรามีเครือข่ายที่จะรวบรวม ที่จะผลิตและเชื่อมทุกคนเข้าด้วยกัน ลุงรีย์ก็จะหยิบมาเล่า แล้วตบเข้าแบรนด์ต่างๆ แต่เราจะถือหุ้นอยู่ในทุกๆ แบรนด์ คีย์ของเรา Connect กับ dot เราเอาออกมาใช้ได้เสมอ”

เพราะคนเลี้ยงสัตว์คนปลูกต้นไม้และคนเลือกกินคือคนๆเดียวกัน

“การรับมือโควิด  19 ก็คือ ทุกวันนี้คนก็จะอยู่บ้าน ดูแลต้นไม้กับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นกราฟธุรกิจที่โตขึ้นเป็นพันเปอร์เซ็นต์ คนที่ขายต้นไม้ก็ราคาขึ้น และสัตว์เลี้ยงแทบจะขาดตลาด เพราะว่าคนอยู่บ้าน work from home จะต้องการสองสิ่งนี้ ตลาดใหญ่ของธุรกิจที่เขาทำอยู่ก็คือ ปุ๋ยและอาหารสัตว์ ส่วนลุงรีย์ที่ทำอยู่ก็คือ ปุ๋ยและอาหารสัตว์ “ทางเลือก”

Uncle Ree Farm

1. คนอยู่บ้านต้องแต่งโต๊ะทำงานให้สวย ก็ซื้อต้นไม้ ซื้อต้นไม้เสร็จต้นไม้จะตาย ก็ต้องซื้อปุ๋ย

2. คนเหงา ไม่ได้คุยกับเพื่อน ไม่ได้เจอเพื่อน แต่มีเวลาเยอะก็เลี้ยงสัตว์ แล้วทำไมต้องเป็น Exofood เพราะคนอยู่คนโด เอาหมาเอาแมวขึ้นไปไม่ได้ ก็เลยต้องมีสัตว์ตัวเล็กๆ กลายมาเป็นพวกกิ้งก่า เพราะใช้ที่น้อย ไม่มีเสียง มันคือการซื้อเพื่อนมานั่งด้วยในช่วง Work from home

3.คนหิว แต่ไม่ชอบทำครัว ก็กลายมาเป็น Ready to eat / Ready to cook

“สุดท้าย Uncle Ree Farm และเพื่อน วุ่นมาก ไม่มีวี่แววว่าจะว่าง เพราะว่าเรารู้หมดว่าคนอยู่บ้านคิดอะไร เราไม่ต้องนั่งทำไส้เดือนอย่างเดียว แต่ทุกอย่างมันมีความเชื่อมโยงกับไส้เดือน สุดท้ายไม่ต้องหาลูกค้าใหม่ เพราะฐานลูกค้าเดิมที่เราทำมาตลอด 7 ปีเพียงแต่หาการแก้ปัญหาให้เขา”

“เขาก็ขายดีขึ้นเพราะเรา เราก็ขายดีขึ้นเพราะเขา เพราะเราสำรวจ Journey ของลูกค้าแล้วไง ว่าคนที่ว่างอยู่บ้านนั่งเลี้ยงสัตว์ มีหน้าตาเป็นแบบไหน ใส่รองเท้าอะไร และเขาคือคนๆ เดียวกับคนที่ชอบปลูกต้นไม้ และเป็นคนๆ เดียวกับคนที่ชอบปิ้งหมูย่างกินที่บ้าน เลือกของดีๆ กิน ตู้เย็นมีของดีๆ เต็มไปหมด ทั้งหมดคือคนเดียวกัน “

โควิดยิ่งต้องรู้สถานะของตัวเอง

ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด 19 ในมุมมองของคนทำแบรนด์ ลุงรีย์แนะนำกับทุกธุรกิจเพื่อรอดพ้นวิกฤติไปให้ได้ว่า

“อย่าขยันผิดเวลา ขยันผิดแบบก็ไม่ได้ และการไม่ลงมือทำแย่ที่สุด บางคนก็เลือกที่จะไม่สู้ศึกนี้ เพราะว่าเขารู้ว่าสู้ไปก็แพ้ เขาเลือกที่จะเก็บตัวเก็บแรง เราต้องรู้ว่าจังหวะนี้เราควรสู้หรือไม่สู้ บางคนบอกมันสู้ต่อไม่ได้ รู้งี้ ปิดตั้งนานแล้ว ไฟไหม้เครื่องบินต้องสละปีกก็ต้องสละ มันบินต่อไม่ได้ ใครทำเร็วที่สุดถึงจะไปได้ต่างหาก ต้องรักษาผู้โดยสารส่วนใหญ่ไว้ เราจะเอาทุกอย่างไปด้วยไม่ได้ ต้องรู้ว่าต้องตัดอะไรออก ต้องเหลืออะไรไว้ เพราะฉะนั้นช่วงนี้ต้องมีสติมากๆ ตะบี้ตะบันขยันก็ไม่ได้ สุดท้ายไม่ได้นอนก็ป่วย พอร่างกายไม่แข็งแรงโควิดก็เล่นงาน เครียดก็ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ พออ่อนแอก็โดน ต้องสร้างสมดุล พอแล้วยิ่งมี คือการสร้างสมดุล การไม่ทำยิ่งกลับมีคืออะไร มันก็คือการเลือกทำนั่นเอง เลือกทำบางอย่างและไม่ทำบางอย่าง”

ภาพฝันและจักรวาลของไส้เดือน

จากเรื่องราวของลุงรีย์ที่เราเล่ามาจนถึงจุดนี้ เราเห็นความเจ๋ง เห็นความบ้าพลัง เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่จริงๆ แล้วลุงรีย์ก็ยังมีความฝันที่ยังทำไม่สำเร็จ เป็นแผลในใจตลอด 7 ปีที่สร้าง Uncle Ree Farm เฉกเช่นปุตุชนทั่วไป

Uncle Ree Farm

“ปีที่แล้ว เรารู้สึกว่าฟาร์มเราเจ๋งมาก แต่ดันไม่มีประโยชน์อะไรกับคนในซอยบ้านเลย ก็เป็นอะไรที่จี๊ดใจอยู่เหมือนกัน ฟาร์มเรามีคนเดินทางมาจากเชียงใหม่ เดินทางมาจากสมุย แต่ไม่เห็นป้าข้าวมันไก่ปากซอยจะเกี่ยวข้องอะไรกับเราเสียที ก็เป็นสิ่งที่พยายามจะทำให้ได้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่พยายามไปเปลี่ยนแปลงคนอื่น ก็เป็นทุกข์

“ถึงจะรู้ว่าจักรวาลมันกว้าง แต่เราก็รู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ที่ดาวดวงนี้ และคงเพิ่มดาวไปเรื่อยๆ เราเคยเป็นดีไซน์เนอร์มาก่อน และเราไม่เคยเปลี่ยนอาชีพเพียงแต่บูรณาการอาชีพตัวเองมาใช้ให้มันเกิดประโยชน์สูงสุด เซ็กซี่ สวยงาม น่าใช้ มีเหตุผล มีความเชื่อว่าภูมิปัญญาเรื่องแมลง เรื่องไส้เดือน เรื่องตัวอะไรต่างๆ มันเป็นสิ่งที่ควรจะเอามาใส่เทคโนโลยีแล้วพัฒนาให้มันกลายเป็น เรื่องที่ถูกยอมรับสากล เราทำเรื่องจุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ถนอมอาหาร มันไม่ใช่แค่ชอบไส้เดือนแล้วไปชอบชีส แต่ว่ามันเกี่ยวกับระบบการเติบโตยึดครองอาณาจักรของจุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในดิน ในอากาศ ที่ควรนำมาถูกใช้งาน และเราก็ยังอยู่กรุงเทพแบบไม่น่าเชื่อ”

ความสุขที่ต่างในจักรวาลเดียวกัน

“เราไม่มีปัญญาที่จะทำของบางอย่างด้วยตัวคนเดียว เพราะเราทำคนเดียวไม่ได้ แต่อยากใหญ่ขึ้น เลยต้องมี Party (พรรคพวก) / Partner (พันธมิตร) / Collaborate (ความประสานร่วมมือ) เพราะเราไม่ได้มีชื่อเสียงด้านนั้นเท่ากับคนที่เราไปร่วมมือด้วย เราต้องช่วยกัน ทุกคนที่ทำงานร่วมกันกับเรา มีความสุขไม่เหมือนกัน ความสุขใคร ความสุขมัน แต่ว่าถ้าเรามี เป้าหมาย มีความเชื่อ สักหนึ่งเรื่องสองเรื่องคล้ายกัน เรามาทำงานด้วยกัน ทุกวันนี้เราอยู่ได้ด้วยงานที่สนุก แล้วงานที่สนุกมันสามารถเลี้ยงเรา แล้วเราก็มีความสุขในงาน”

Uncle Ree Farm

นี่คือเรื่องราวภาพฝันของคนหนุ่มสาว กับความแตกต่างอย่างมีจุดหมายเดียวกัน จักรวาลใต้พิภพของ Uncle Ree Farm เติบโตอย่างมั่นคงไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่แลกมาด้วยการทำงานหนัก การวางแผน การวิจัย การเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ่งในแต่ละแบรนด์ที่ทำงานหมุนเวียนร่วมกัน กลายมาเป็นเกราะป้องกันชั้นดี ที่ไม่ว่าวิกฤติโควิดหรือวิกฤติใดๆ อาณาจักรใต้ดินนี้ก็จะนำพาทุกคนรอดไปได้ เราเชื่อเช่นนั้น

:::

พอแล้วดี The Creator : ลุงรีย์ – ชารีย์ บุญญวินิจ

ธุรกิจ : Uncleree Farm